Set Environment Python
ก่อนอื่นเลย เราสามารถดูได้ว่าที่เครื่องเรามีไพธอนเวอร์ชั่นไหนบ้าง ได้จากวิธีการ set default ของไพธอนนะครับ ซึ่งถ้าเวอร์ชั่นที่เราต้องการไม่มีก็ลงเพิ่ม สมมุติละกันว่าเครื่องผมมีแต่ไพธอน เวอร์ชั่น 3.6 ที่นี้เราต้องการใช้พวกโปรแกรมที่ทำงานบนไพธอน 2.7 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเก่านะครับ สิ่งที่เราต้องทำมีดังนี้
- sudo apt install software-properties-common
- sudo add-apt-repository ppa:deadsnakes/ppa ติดตั้ง repo ของ python
- sudo apt update อัพเดต
- sudo apt install python3.8 -y แล้วตามด้วยติดตั้งเวอร์ชั่นที่ต้องการใช้งานก่อนนะครับ
- sudo apt install python3.8-distutils
- wget https://bootstrap.pypa.io/get-pip.py ดาวน์โหลด
- sudo python3.8 get-pip.py ติดตั้ง pip
- pip install pip==21.3.1 กรณีอยากเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ pip
- sudo apt install virtualenv -y หรือ sudo apt -y install python3.10-venv หรือใช้ pip install virtualenv ลงตัวสร้าง environment แยก (window ใช้ python -m pip install --user virtualenv ต้องมี python และ pip ก่อนนะครับ)
- virtualenv --python python3.8 envPython หรือ python3 -m venv envPython สั่งให้มันสร้าง environment โดยใช้ python 3.8 และใช้ชื่อโฟลเดอร์ว่า envPython ซึ่งมันจะอยู่ที่ /home/user ของเราเนี่ยละ (ถ้าอยากเปลี่ยนโฟลเดอร์ก็ให้สร้าง แล้วใช้ cd เข้าไปในโฟลเดอร์ก่อนที่จะใช้คำสั่งสร้าง virtualenv นะครับ) (window ใช้ python -m venv envPython ซึ่ง path จะอยู่ที่ C:\Users\NameUser ของเรานะครับ)
- source ./envPython/bin/activate สั่งให้มันทำงาน (ใช้ทุกครั้งถ้าจะใช้งาน environment) ตอนนี้เราก็จะเข้าไปอยู่ใน environment ที่แยกออกมาซึ่งใช้ ไพธอน 3.8 เป็น default ละครับ ซึ่งเราสามารถสั่งลงโปรแกรมอะไรก็ตามที่ใช้ ไพธอน 3.8 ได้ที่นี้ครับ (การสั่งให้มันทำงานจะเข้าไปข้างในโฟลเดอร์ที่เราสร้าง แล้วใช้คำสั่ง ./bin/activate เลยก็ได้นะครับ ถ้าทำหลาย env แบบนี้จะจำสั้นกว่า)(window ใช้ .\envPython\Scripts\activate แทนนะครับ)
- การสั่งให้ environment ทำงาน (ของข้อ 4.) จะใช้ cd เข้าโฟลเดอร์ที่เราสร้าง environment ก่อนแล้วใช้คำสั่ง source ./bin/activate แทนก็ได้นะครับ
- กรณีที่ต้องการออกจาก environment ใช้คำสั่ง deactivate นะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น