Web Browser



               หลายคนอาจจะสงสัยว่าผมเอาเรื่อง Web Browser นี้มาลงทำไม ก็แค่ใช้เข้าเว็บธรรมดามิใช่หรือ? หลายคนอาจจะเคยใช้มาจนชินแล้วมันมีอะไรมากกว่านี้รึ? เอาจริงๆ ถ้าเอาแค่ในเรื่องความเร็ว ความปลอดภัย เดี๋ยวนี้ก็แทบไม่ต่างกันมากแล้วครับ แต่มันมีออฟชั่นอย่างอื่นที่น่าสนใจมากกว่านั้น ซึ่งในบทความนี้ผมจะยกมาแค่บางส่วนนะครับ
  1.   Edge ของไมโครซอฟนะครับ หลังจากถูกคนก่นด่ากันมานาน เปรียบเสมือนที่เอาไว้เข้าเว็บเพื่อดาวน์โหลด Chrome อีกที แต่ตอนนี้ได้ออกตัวใหม่มาแล้ว ซึ่งก็ใช้เอนจิ้นตัวเดียวกับของ Chrome นั้นละ แต่พัฒนา และปรับปรุงในแบบของตนเองจนดีขึ้น ทั้งแง่ความเร็ว และยังใช้แรมน้อยกว่า Chrome อีก เรียกได้ว่าตอนนี้เร็วแรงแซงทางโค้งเลยทีเดียว แต่เมื่อมีได้ย่อมมีเสีย เมื่อไม่ได้โหลดหน้าเว็บเพื่อเก็บไว้ในแรม นั้นก็หมายความว่าต้องทำแคชเก็บไว้มากขึ้น ทำให้กินพื้นที่กว่า Chrome ถือว่าชดเชยกันไป
     
  2.  Chrome ของ google (กูเกิ้ล) จ้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดการแข่งขันของโปรแกรม Web Browser ในแต่ละเจ้า ข้อดีก็ไวอันดับต้นๆ แม้ว่าจะเพิ่งเสียแชมป์ให้ Edge นิดหน่อย แต่ก็ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมี Chrome เว็บสโตร์ ให้ใช้อีก ซึ่งมีส่วนเสริมฟรีๆ ให้ใช้เยอะมากทั้งแบบออฟไลน์ ออนไลน์ จนกระทั่งในต่างชาติ กูเกิ้ลได้เริ่มแบ่งตัวเองออกไปเป็นระบบ Chrome OS ของตัวเอง ซึ่งมีข้อดีคือใช้สเปคต่ำมาก เข้าระบบได้เร็วมาก แม้ว่าอาจจะยังไม่แพร่หลายในไทยก็ตาม (มือถือของกูเกิ้ลก็ไม่มีขายในไทยเช่นกัน ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก) นอกจากนี้ยังมีระบบที่เรียกได้ว่าบังคับให้เว็บต่างๆ มีธีมสีดำ ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่อยู่กับหน้าจอนานๆ (ในเว็บบราวเซอร์ตัวอื่นก็มีธีมสีดำนะ แต่ไม่ได้มีความสามารถในการบังคับให้ตัวเว็บมีสีดำไปด้วย)

  3. FireFox หรือที่เรียกกันส่วนมากว่า หมาไฟ เกิดมาจากองค์กรอิสระ ที่ไม่หวังผลกำไร มีเอนจิ้นของตัวเอง ติดอันดับเว็บบราวเซอร์ที่ดี ทั้งในด้านประสิทธิภาพ และได้ใจผู้ใช้งานอยู่ทุกปี แม้ว่าไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ก็ไม่เคยหลุดอันดับเลย ดังนั้นแม้ข้อดีอื่นๆ อาจไม่ได้โดดเด่นมาก แต่มีข้อนึงที่โดดเด่นจนทำให้ผมใช้มาถึงทุกวัน คือ FireFox Portable และเหตุผลนั้นก็คือความเป็น Portable อย่างแท้จริงของมัน ทำให้มันแยกทุกอย่างอยู่ในโฟลเดอร์ของมันเอง ทั้งไอดี รหัสต่างๆ ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้เว็บหลายไอดี และนำใส่แฟลชไดรฟไปใช้ที่ไหนก็ได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับของเจ้าอื่น จะอิงการใช้ไอดี รหัส ร่วมกัน ถ้าล้างข้อมูลอันใดออก ทุกๆ อันก็โดนล้างข้อมูลออกเช่นกัน นอกจากนี้ยงสามารถั้งค่า proxy แยกได้อีก

  4. Brave เจ้าที่เริ่มต้นมาด้วยการเน้นที่ความปลอดภัย แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผมใช้มันหรอก เหตุผลที่ใช้มันก็เพราะว่ามันเป็นเจ้าแรกๆ ที่เริ่มต้นในการบล็อคโฆษณาของ YouTube มากกว่า แถมตอนนี้ยังมีเรื่องการกินแรมที่น้อยกว่า Chrome และ Edge อีกด้วย

  5. Opera เป็นอีกเจ้าที่มีมานานเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจคือตามหลัง Brave ด้วยการบล็อคโฆษณา YouTube เช่นกัน และออฟชั่นที่นอกเหนือจากนั้นคือ สามารถเซฟหน้าเว็บในรูปแบบ PDF ได้ แม้ว่าเว็บนั้นจะป้องกันการเซฟรูปไว้ก็ไร้ความหมาย แต่บอกก่อนนะ เป้าหมายคือการใช้เก็บหน้าเว็บไว้ดูยามที่ต้องการนะ ถ้าเอารูปที่ได้จาก PDF ไปใช้ก็ผิดกฏหมายอยู่ดี (เค้าบล็อคก็เพราะไม่ต้องการให้เอาไปใช้นินะ) อ้อ ข้อเสียคือเวลาคลิ๊กที่ Tab ซ้ำสองครั้งหน้าเว็บจะเด้งขึ้นมาข้างบนสุด แต่แก้ได้ด้วยการเข้าไปที่เมนู การตั้งค่า>ขั้นสูง>คุณลักษณะ ไปที่หัวข้อ " ส่วนติดต่อผู้ใช้ " แล้วปิดหัวข้อ " เลื่อนไปยังบนสุดของหน้าโดยการคลิ๊กที่แท็บที่ใช้งานอยู่ " นะครับ
     
  6. SlimJet อีกเจ้านึงที่สามารถบล็อคโฆษณาของ YouTube ได้ และยังทำตัวเองเป็นโปรแกรมแบบ Portable ให้โหลดจากเว็บต้นฉบับเองได้เลย ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าจะมีอะไรแอบแฝงมาจากคนที่นำไปทำให้เป็นโปรแกรมแบบ Portable เลย






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โปรโมชั่นเน็ต TOT

โน๊ตบุ๊ค acer switch sa5-271 แบตบวม T^T

Blog นี้สร้างเพื่อ?