Web, App, Wep App

            หัวข้อนี้ทั้งอยากเขียน และไม่อยากเขียนเลย ข้อแรกคือมันเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก สำหรับการทำอะไรข้ามแพลตฟอร์มในปัจจุบัน โดยอย่างยิ่งเมื่อมีการพัฒนามากขึ้น performance ก็ยิ่งต่างกันน้อยลงเมื่อเทียบกับพวก native (ต่างแหละ แต่คือผู้ใช้ทั่วไปคงสังเกตกันไม่ออกหรอก ถ้าไม่ใช่แอปใหญ่ๆ หรือต้องการความ realtime อย่างจริงจัง แบบพวกเกม realtime หรือการควบคุมระบบหุ่นยนต์) ข้อสองในปัจจุบันการพัฒนาข้ามแพลตฟอร์ม พยายามทำให้มีโค้ดที่ต้องแก้ไขน้อยที่สุด  หรือมุ่งสู่การใช้โค้ดชุดเดียว (เช่น flutter) ซึ่งก็จะง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่... ส่วนที่ไม่อยากเขียน ข้อแรกคือ frame work ที่ค่อนข้างเยอะ และหลายๆ อันก็ทำหน้าที่ข้ามส่วนกันบ้าง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย 555 (ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ผู้เขียนเนี่ยละ) 

            อย่างถ้าเราจะทำเว็บสักอัน ปกติจะแบ่งเป็น Front-End กับ Back-End (โอเค มันมีคนรับผิดชอบ DataBase กับพวกกราฟฟิคด้วย แต่อันนั้นขึ้นกับจะทำเพื่อการใช้งานขนาดไหน ไม่ใช่ไม่สำคัญนะ แต่ถ้าทำแอปเล็กๆ เอง คุณก็เหมาหมดนั้นละ Fullstack กันไป) ซึ่ง สองส่วนนี้มันก็มีเฟรมเวิร์คของมัน เช่น angular, vue, react, svelte กลุ่มด้านนี้เป็น Front-End ทั้งหมด ซึ่งส่วนมากใช้ js, typescript (เนื่องจากเป็นส่วน Front-End ของเว็บถ้าจะใช้ก็ต้องรู้เรื่อง html, css->bootstrap, tailwind ซึ่งอาจมีพวก json, xml ด้วย) ในส่วนของ Back-End ก็มีพวก python(django, flask), php(laravel, cakephp), ruby(ruby on rails), gin(golang), nuxt.js, node.js(expressjs,koa,meteor,nestJs) ซึ่งก็จะหลากหลายภาษามากกว่า Front end เสียอีก ดูความนิยมได้ที่นี้ เอาละ (แต่บางตัวก็เป็นได้ทั้ง Front-Back นะ)

            ทีนี้มาพูดถึงเรื่องการครอสแพลตฟอร์ม เนื่องจากส่วนแรกที่เราพูดไปนั้นเป็นแค่ส่วนในการทำเว็บครับ จากเดิมที่ไว้ใช้ทำเว็บจะมากลายเป็นแอปข้ามแพลตฟอร์มได้ก็ต้องมีส่วนที่รับผิดชอบในการจัดการเรื่องแบบนี้อีกที ซึ่งได้แก่ electron js, proton native, cordova, ionic => capacitor ซึ่งพวกนี้ก็สามารถใช้ร่วมกับ Front-End ได้

            ซึ่งจริงๆ เฟรมเวิร์คที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้มีเยอะมากนะครับ (นั้นละที่ทำให้ไม่อยากเขียนถึงมัน เพราะเอาจริงเราก็รู้จักกันไม่กี่ตัว) แถมบางทียังมีส่วนงานที่คาบเกี่ยวกันด้วย นอกจากนี้ web app สำหรับผมเข้าใจว่ามันเป็นเว็บนี้ละ แต่รูปแบบการใช้งานมันจะไปทางแอป คือเน้นทาง reaction ในการตอบสนองมากกว่าแบบ static